เวลา 16.30 น.
ได้ดำเนินการเข้าพบ นายอดิศักดิ์ งามแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านท่ากะได ตำบลกะปง อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เพื่อแนะนำรายละเอียดโครงการ และรับฟังความคิดเห็น โดยให้ข้อมูลว่า ครัวเรือนบริเวณหมู่ที่ 4 บ้านท่ากะได อยู่ในพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติ หากโครงการมีการขยายผิวจราจรแล้วต้องตัดฟันไม้ยืนต้น ไม้ผลที่ประชาชนปลูกไว้จะได้รับการชดเชยหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ในภาพรวมมีความเห็นด้วยกับการพัฒนาโครงการเพราะการเดินทางสะดวกขึ้น และช่วยลดอุบัติเหตุ

เวลา 09.00 น.
ได้เข้าพบนายนิธิวุฒิ ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา นายพนมธรรม จิตรา ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ นายมนัส จู่ห้อง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส นายจิรพงษ์ เอกวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้พังงา และนายสงวนศักดิ์ ลิ่มบุตร พนักงานพิทักษ์ป่า เพื่อแนะนำรายละเอียดโครงการหารือประเด็นการเข้าสำรวจทางวิศวกรรม และงานสำรวจดิน และรับฟังความคิดเห็นโดยได้รับหัวข้อเสนอแนะดังนี้
- การดำเนินงานทุกขั้นตอนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
- ต้องตรวจสอบว่าเขตทางเดิม กรมทางหลวงได้มีการขออนุญาตไว้ถูกต้องแล้วหรือไม่
- ใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติให้น้อยที่สุด หรือดำเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
- การสำรวจภาคสนามทางด้านสิ่งแวดล้อมและการขยายผิวจราจรต้องตรวจสอบ การขอใช้พื้นที่เขตทางเดิมบริเวณป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ ของทางหลวงหมายเลข 4090 ให้ชัดเจนหากยังไม่มีการขอใช้พื้นที่จะไม่สามารถศึกษาในพื้นที่โครงการได้

เวลา 13.30 น.
ได้ดำเนินการเข้าพบ นายสมพร คงสวัสดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำภี จ่าเอกจักรพันธ์ แท่นทอง นักพัฒนาชุมชนชำนาญการเพื่อแนะนำรายละเอียดโครงการ และขอความอนุเคราะห์ขอข้อมูลและตรวจสอบแนวเขตการปกครอง เพื่อใช้สำหรับจัดทำแผนงานการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และรับฟังความคิดเห็น พบว่า พื้นที่ศึกษาของโครงการครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านคลองห้าง โดยอยู่ในการดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลลำภี และได้แนะนำสถานที่จัดประชุม ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ศึกษาโครงการที่ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าร่วมประชุมได้สะดวก

เวลา 13.30 น.
ที่ปรึกษาได้ดำเนินการเข้าพบ นายรวีโรจน์ ผิวงาม ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลัก - ลำรู่ และนางสาวพิชญาภัค พรมทอง นักบริหารงานทั่วไป เพื่อแนะนำรายละเอียดโครงการ ขอความอนุเคราะห์ขอข้อมูลและตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ และรับฟังความคิดเห็น โดยในการเข้าศึกษาในเขตอุทยาน
ต้องได้รับการอนุญาต ให้เข้าศึกษาวิจัยในอุทยานแห่งชาติเสียก่อน และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในช่วงที่แนวทางหลวงตัดผ่านอุทยานแห่งชาติ ไม่พบว่ามีอุบัติเหตุรถชนสัตว์ป่าในบริเวณดังกล่าว